วิธีการกรอง
1.ก่อนเริ่มการกรองน้ำเชื่อมต้องทำการอุ่นหม้อกรองและเคลือบผงช่วยกรองก่อนทุกครั้ง
1.1 ทำการเปิดสเปรย์น้ำร้อนและเปิดน้ำร้อนเข้าหม้อกรอง
1.2 ผลักคันโยกช่องทางน้ำเชื่อมออกให้อยู่ในตำแหน่งผงช่วยกรอง
1.3 รอจนน้ำร้อนไหลผ่านโรต้ามิเตอร์ลงถังผงช่วยกรองให้ได้ปริมาตร 40% ของถัง
1.4 ปิดวาร์วน้ำร้อนและวาล์วสเปรย์น้ำร้อน
1.5 ทำการปั๊มผงช่วยกรองเพื่อกวนผสมผงช่วยกรองกับน้ำร้อนหรือน้ำเชื่อมในถังผงช่วยกรอง
1.6 เทผงช่วยกรองประมาณ 12.5 กิโลกรัม (ครึ่งหนึ่งของถุง)ลงในถังผงช่วยกรองลงในถังผงช่วยกรอง รอให้กวนผสมกันสัก 5 นาที1.7 ผลักตันโยกช่องทางน้ำเชื่อมออกให้อยู่ในตำแหน่งผงช่วยกรอง
1.8 เดินมอร์เตอร์ชุดขับหม้อกรองเพื่อให้แผ่นผ้ากรองหมุน
1.9 หมุนเวียนน้ำร้อนหรือน้ำเชื่อมที่ผสมผงช่วยกรองจนกระทั่งน้ำร้อนหรือน้ำเชื่อมที่ไหลผ่านโรต้ามิเตอร์มีลักษณะใส
1.10 กรณีใช้น้ำร้อนผสมผงช่วยกรองเมื่อน้ำร้อนที่ไหลผ่านหลอดแก้วเริ่มใสแล้วให้ผลักคันโยกช่องทางน้ำเชื่อมออก ให้อยู่ในตำแหน่งน้ำหวาน
1.11 กรณีใช้น้ำเชื่อมกรองแล้วผสมผงช่วยกรองเมื่อน้ำเชื่อมที่ไหลผ่านหลอดแก้วเริ่มใสแล้วให้ผลักคันโยกช่องทางน้ำเชื่อมออกให้อยู่ในตำแหน่งหมุนเวียน
2.หลังจากปล่อยน้ำร้อนหรือน้ำเชื่อมในถังผงช่วยกรองใกล้จะหมดให้ทำการปิดปั๊มผงช่วยกรองพร้อมกับเปิดวาล์วให้น้ำเชื่อมที่ฟอกแล้วเข้ามาในหม้อกรองทันที (ต้องระวังไม่ให้แรงดันลดลงเพราะจะทำให้ผงช่วยกรองที่เคลือบผ้ากรองไว้หลุด)
3.วัดค่าความเข้มข้นของน้ำเชื่อมที่ไหลออกมาจากคันโยกช่องทางน้ำเชื่อมออก
4. ถ้าค่าความเข้มข้นของน้ำเชื่อมมากกว่า 30 Brix ให้ผลัดคันโยกช่องทางน้ำเชื่อมออกให้อยู่ในตำแหน่งหมุนเวียน
5.รอจนน้ำเชื่อมที่ไหลผ่านหลอดแก้วเริ่มใส ให้ผลักคันโยกช่องทางน้ำเชื่อมออกให้อยู่ในตำแหน่งกรองแล้ว
6.หมั่นตรวจความใสของน้ำเชื่อมที่ไหลผ่านหลอดแก้ว ถ้าพบว่าน้ำเชื่อมที่ไหลผ่านหลอดแก้วใดขุ่น ให้ปิดวาล์วของหลอดแก้วนั้นๆให้สนิท(ช่วงล้างเครื่องจะทำการตรวจสอบผ้ากรอง ถ้าขาดต้องเปลี่ยนผ้ากรองใหม่)
7. แรงดันในตัวหม้อกรองสูงถึง 3 kg/cm3หรือครบรอบเวลาการใช้งาน 6 ชั่วโมงให้ทำการล้างหม้อกรอง